นักพัฒนาซอฟท์แวร์ก็สามารถหารายได้เสริมที่เป็นลักษณะของ Passive Income ได้ไม่แพ้อาชีพอื่นๆ
รายได้เสริมแบบ Passive Income
ในบทความนี้ เราจะพูดถึงรายได้แบบ Passive Income เท่านั้น ซึ่งจะหมายถึงรายได้ที่เมื่อเราทำอะไรให้เกิดขึ้นสักอย่างแล้วก็จะมีรายรับเข้ามาเรื่อยๆโดยไม่จำเป็นต้องลงแรงเพิ่ม ตัวอย่างง่ายๆเลยก็อย่างเช่นพวกค่าลิขสิทธิ์ต่างๆ โดยเจ้าของลิขสิทธิ์จะสร้างผลงานขึ้นมาครั้งเดียว แต่สามารถเก็บค่ารายได้ลิขสิทธิ์ ซึ่งถือเป็น Passive Income ได้ตลอดตราบเท่าที่ลิชสิทธิ์นั้นยังเป็นของเราอยู่
Passive Income ที่เราจะพูดถึงในบทความนี้ จะจำกัดให้เป็นรายได้จากการที่คุณเป็นนักพัฒนาซอฟต์แวร์เท่านั้น ไม่รวมรายได้จากกิจกรรมอย่างอื่น เช่น ให้เช่าบ้านแล้วเก็บค่าเช่า ซึ่งแบบนี้ไม่จำเป็นต้องเป็นนักพัฒนาซอฟต์แวร์ก็สามารถทำได้อยู่แล้ว
ตัวอย่าง Passive Income ที่เกิดจากทักษะการพัฒนาซอฟต์แวร์
- เขียน API ให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์คนอื่นเรียกใช้งาน
- เขียน Blog เกี่ยวกับการพัฒนาซอทฟ์แวร์ แล้วหารายได้จากโฆษณา หรือ Affiliate Program ต่างๆ
- พัฒนาโปรแกรมขายบน App Store ต่างๆ
- สร้างคอร์สสอนการพัฒนาโปรแกรมในช่อง Youtube หรือเว็บไซต์ e-Learning เช่น Udemy
- เขียน eBook เกี่ยวกับการพัฒนาซอฟต์แวร์ แล้ววางขายตามเว็บ เช่น Amazon
- สร้างเว็บสำหรับเสนอบริการในรูปแบบของ Software as a Service (SaaS) แล้วเก็บค่าสมัครรายเดือน
จะเห็นว่า เราสามารถใช้ทักษะในการพัฒนาซอฟต์แวร์ในการหารายได้แบบ Passive Income ได้อีกหลายวิธี นอกเหนือจากการรับเงินเดือนจากการเป็นพนักงานประจำ หรือการพัฒนาโปรแกรมตามคำสั่งซื้อของลูกค้า ซึ่งรายได้เหล่านี้ไม่ถือเป็น Passive Income ที่คนยุคใหม่ปรารถนาจะมีรายได้แบบนี้มากที่สุด
image credit: unsplash